Humectants, Natural Oils, Synthetic Esters และ Silicone Alternatives ต่างกันอย่างไร? เปรียบเทียบเนื้อสัมผัสครีมบำรุงผิว

เจาะลึกความแตกต่างของ Humectants, Natural Oils, Synthetic Esters และ Silicone Alternatives ในครีมบำรุงผิว พร้อมวิธีเลือกเนื้อครีมให้เหมาะกับสภาพผิวและสไตล์ที่คุณต้องการ

Humectants vs Natural Oils vs Synthetic Esters vs Silicone Alternatives – ส่วนผสมไหนเหมาะกับผิวคุณ?

ทำความรู้จัก 4 กลุ่มส่วนผสมหลักในครีมบำรุงผิว

เคยสงสัยไหม? ทำไมครีมกระปุกนี้ทาแล้วหายวับไปกับผิว แต่กระปุกนั้นกลับทิ้งความมันวาวไว้? หรือทำไมบางตัวทาแล้วรู้สึก “กำมะหยี่” สุดๆ คำตอบไม่ได้อยู่ที่แบรนด์ แต่อยู่ที่ “Chemistry of Texture” หรือเคมีของเนื้อสัมผัส

การเลือกครีมบำรุงผิวให้ “ถูกใจ” ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่สารบำรุงว่าดีแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับ
เนื้อสัมผัส (Texture) ด้วยว่าตรงกับความรู้สึกที่คุณต้องการหรือเปล่า –
บางคนชอบครีมเนื้อบางเบา ซึมไว บางคนชอบเนื้อแน่น ฟู ๆ ให้ความรู้สึกบำรุงเต็มที่

เราจะมาถอดรหัส 4 ส่วนผสมหลักที่กำหนดชะตาชีวิตผิวของคุณ
เบื้องหลังเนื้อสัมผัสเหล่านี้คือการทำงานร่วมกันของกลุ่มส่วนผสมหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่:

• Humectants – สารดึงและกักเก็บความชุ่มชื้น
• Natural Oils – น้ำมันธรรมชาติจากพืชที่ให้ความนุ่มและเคลือบผิว
• Synthetic Esters – เอสเทอร์สังเคราะห์ที่ออกแบบมาให้ฟีลลิ่งหรู เนื้อเบา
• Silicone Alternatives – วัตถุดิบที่ให้สัมผัสคล้ายซิลิโคน แต่ตอบโจทย์สาย Clean / Silicone-free

การเข้าใจบทบาทของแต่ละกลุ่ม จะช่วยให้คุณอ่านฉลากเป็น และเลือกครีมที่ “ใช่” ทั้งในแง่ผิวและสไตล์ที่ชอบ

Humectants คืออะไร – ตัวช่วยดึงความชุ่มชื้นสู่ผิว

แม่เหล็กดึงน้ำ ตัวช่วยผิวอิ่มฟู

Humectants คือสารที่มีคุณสมบัติดึงดูดและจับโมเลกุลน้ำให้เข้ามาอยู่ใกล้ผิวมากขึ้น
ทั้งจากชั้นผิวด้านล่างและความชื้นในสภาพแวดล้อม ช่วยให้ผิวดู
ชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูอวบอิ่มขึ้นทันที

ตัวอย่าง Humectants ที่พบบ่อย ได้แก่:

• Hyaluronic Acid / Sodium Hyaluronate :
• Glycerin : คลาสสิกแต่ได้ผลดีเยี่ยม ราคาเข้าถึงง่าย
• Propanediol / Propylene Glycol / Butylene Glycol : ช่วยนำพาสารสกัดอื่นๆ เข้าสู่ผิว
• Panthenol (Vitamin B5) : ให้ความชุ่มชื้นพร้อมปลอบประโลม
• Sodium PCA

เนื้อสัมผัสและการใช้งาน

ครีมหรือเซรั่มที่มี Humectants ในสัดส่วนสูงมักให้ฟีลลิ่งแบบ:

• เนื้อเบา ฉ่ำน้ำ
• ซึมไว
• รู้สึก “ผิวดื่มน้ำ” เบาสบาย สดชื่น (Watery)

จึงเหมาะมากกับ:

• ผิวมัน–ผิวผสม
• สภาพอากาศร้อนชื้น
• สูตรที่ต้องการฟีลลิ่งเบา เช่น เซรั่ม, essence, เจลครีม

อย่างไรก็ตาม ในสภาพอากาศที่แห้งมาก หากไม่มีตัวช่วย “ล็อก” ความชื้น (เช่นพวก Occlusive/Emollient)
Humectants อาจดึงน้ำออกจากผิวชั้นล่างขึ้นมามากเกินไป ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึงได้ในบางเคส

ข้อดีและข้อควรระวัง

ข้อดี:

• เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้รวดเร็ว
• เนื้อสัมผัสเบา ไม่หนักหน้า
• ใช้กับครีมหรือเซรั่มได้หลายประเภท

ข้อควรระวัง:

• ควรใช้ร่วมกับสารที่ช่วยเคลือบ/ล็อกน้ำ เช่น oils หรือ emollients อื่น ๆ
• ในอากาศแห้งจัด ถ้าสูตรไม่บาลานซ์ อาจยิ่งทำให้ผิวรู้สึกแห้ง
• Humectant บางชนิดในปริมาณสูงอาจให้ฟีลลิ่งเหนียวเล็กน้อย ต้องใช้เทคนิคการฟอร์มูเลชันช่วยบาลานซ์

Natural Oils – น้ำมันธรรมชาติ บำรุงล้ำลึกแบบคลาสสิก

คุณสมบัติเด่น

ให้นึกภาพ: Natural Oils คือ “ผ้าห่มหนานุ่ม” ที่คลุมผิวไว้เพื่อกักเก็บความอบอุ่นและความชุ่มชื้น

กลไกการทำงาน: น้ำมันธรรมชาติอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น (Fatty Acids), วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เป็น Emollient (ทำให้ผิวนุ่ม) และ Occlusive (เคลือบปิดผิว) ช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่เสียหาย

Natural Oils หรือน้ำมันธรรมชาติจากพืช เป็นส่วนผสมที่ใช้ในสกินแคร์มานานมาก
อุดมด้วย:

• กรดไขมัน (Fatty Acids)
• วิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน E
• สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

ตัวอย่างยอดนิยม เช่น:

• Jojoba Oil – โครงสร้างคล้ายน้ำมันธรรมชาติของผิว
• Argan Oil – อุดมด้วยวิตามิน E และกรดไขมัน
• Sweet Almond Oil, Olive Oil
• Rosehip Oil – เป็นที่นิยมในกลุ่มลดรอยสิว/ริ้วรอย
• Coconut Oil – ใช้ในผลิตภัณฑ์ผมและบอดี้

เนื้อสัมผัสและการใช้งาน

ครีมหรือโลชั่นที่ใช้น้ำมันธรรมชาติในสัดส่วนสูงมักให้ความรู้สึก:

• เนื้อแน่น อิ่มฟู
• เคลือบผิวดีมาก
• เหมาะเป็น “ครีมกลางคืน” หรือบำรุงผิวแห้ง

เหมาะกับ:

• ผิวแห้ง–แห้งมาก
• ผิวที่เกราะป้องกันผิว (Skin barrier) เสียหาย
• ผลิตภัณฑ์บอดี้ครีม โลชั่นเข้มข้น

ข้อดีและข้อควรระวัง

ข้อดี:

• ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน
• เสริมเกราะป้องกันผิว
• บางชนิดเหมาะกับผิวแพ้ง่าย

ข้อควรระวัง:

• บางชนิดมี Comedogenic Rating สูง เสี่ยงอุดตันในคนผิวมัน/เป็นสิวง่าย
• อาจซึมช้ากว่า ทำให้รู้สึกมันหรือเหนอะ
• น้ำมันบางชนิดเหม็นหืนได้ง่ายถ้าเก็บรักษาไม่ดี

Synthetic Esters – เอสเทอร์สังเคราะห์กับเนื้อครีมฟีลลิ่งหรู

นักปรับสัมผัสอัจฉริยะ (The Texture Masters)

คำว่า “Synthetic” (สังเคราะห์) ไม่ได้แปลว่าอันตราย ในทางเครื่องสำอาง มันคือการนำกรดไขมันจากธรรมชาติ (เช่น มะพร้าว) มาทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ เพื่อให้ได้โมเลกุลใหม่ที่ “ตัดข้อด้อยของน้ำมันทิ้งไป”

คุณสมบัติเด่น: แก้ปัญหาความเหนียวเหนอะหนะและกลิ่นหืนของน้ำมันธรรมชาติ ให้สัมผัสที่แห้งไว (Dry Feel) แต่ยังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี

คุณสมบัติเด่น

Synthetic Esters คือสารที่มักได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างกรดไขมันกับแอลกอฮอล์
ถูกออกแบบมาเพื่อให้:

• เนื้อสัมผัสเฉพาะ เช่น แห้งไว, ลื่น, บางเบา
• เสถียรภาพที่ดี (ไม่หืนง่าย)
• กลิ่นน้อย หรือไม่มีเลย

ตัวอย่างที่ใช้บ่อย เช่น:

• Caprylic/Capric Triglyceride – ให้สัมผัสนุ่มลื่น เบา
• C12-15 Alkyl Benzoate – ให้ฟีลลิ่งแห้งไว เหมาะในกันแดดและครีมเนื้อบาง
• Isopropyl Myristate / Isopropyl Palmitate – ให้สัมผัสลื่น แต่ต้องควบคุมปริมาณในผิวเป็นสิวง่าย

เนื้อสัมผัสและการใช้งาน

ครีมที่ใช้ Synthetic Esters มักจะ:

• เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
• ให้ความรู้สึก “เนียน ลื่น หรู” (Velvety)
• ซึมไวกว่าใช้น้ำมันธรรมชาติอย่างเดียว

จึงนิยมใช้ใน:

• ครีมบำรุงกลุ่มพรีเมียม
• กันแดด (ช่วยให้เกลี่ยง่าย ลดคราบมัน)
• ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการฟีลลิ่งแบบ “masstige / luxury feel แต่ยังคุมต้นทุนได้”

ข้อดีและข้อควรระวัง

ข้อดี:

• ควบคุมฟีลลิ่งได้แม่นยำ
• เสถียรสูง ไม่หืนง่าย
• กลิ่นน้อย เหมาะกับผิวแพ้ง่ายในแง่ fragrance-free

ข้อควรระวัง:

• ไม่มีสารอาหารธรรมชาติเหมือน Oils (แต่สามารถเติม Active อื่นลงไปได้)
• บางชนิดถ้าใช้มากไปอาจอุดตันหรือทำให้ผิวมันเกินไปในบางประเภทผิว

Silicone Alternatives – ทางเลือกใหม่แทนซิลิโคนในยุค Clean Beauty

ให้นึกภาพ: Silicone Alternatives คือ “รถยนต์ไฟฟ้า” ขับเคลื่อนได้เงียบและลื่นไหลเหมือนรถหรู แต่เป็นมิตรกับโลกมากกว่า

ทำไมต้องหาทางเลือก? ซิลิโคน (เช่น Dimethicone) ทำหน้าที่เคลือบผิวให้ลื่นและเบลอรูขุมขนได้ดีมาก แต่ผู้บริโภคสาย Green เริ่มกังวลเรื่องการย่อยสลายในธรรมชาติ จึงเกิดนวัตกรรมสารสกัดจากพืชที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนซิลิโคนเป๊ะๆ

คุณสมบัติเด่น

เมื่อผู้บริโภคเริ่มสนใจคำว่า “Silicone-free” มากขึ้น แบรนด์จึงหันมาใช้
Silicone Alternatives มากขึ้นเช่นกัน

Silicone Alternatives คือกลุ่มวัตถุดิบที่ให้ฟีลลิ่งคล้ายซิลิโคน เช่น เนียน ลื่น เกลี่ยง่าย แต่:

• มาจากพืช
• ย่อยสลายง่ายกว่า
• หรือให้ภาพลักษณ์ Clean / Green มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น:

• Plant-derived Squalane / Hemisqualane – แม้ไม่ใช่ซิลิโคน แต่ให้ฟีลลิ่งลื่น เบา คล้ายกัน
• Ester-based Silicone Alternatives – ส่งมอบฟีลลิ่งแบบ “silky” แต่ใช้โครงสร้างจากพืช

เนื้อสัมผัสและการใช้งาน

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Silicone Alternatives มักให้ฟีลลิ่ง:

• ลื่น เบา ไม่ถูกรู้สึกว่า “เคลือบหนา”
• เกลี่ยง่าย เหมาะกับทั้งครีมบำรุงและเมกอัพเบส
• เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการเคลม clean / green / silicone-free

ข้อดีและข้อควรระวัง

ข้อดี:

• ให้สัมผัสพรีเมียมแบบซิลิโคน แต่ตอบโจทย์ clean beauty
• ไม่สะสมบนผิวเหมือนที่คนบางกลุ่มกังวลกับซิลิโคน
• เหมาะกับสูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายและแบรนด์ที่เน้นจุดยืนด้าน sustainability

ข้อควรระวัง:

• ราคามักสูงกว่าสารทั่วไป
• ประสิทธิภาพในบางโจทย์ (เช่น slip สูงมาก ๆ) อาจยังไม่เท่าซิลิโคนแท้ทุกชนิด
• มีตัวเลือกในตลาดน้อยกว่ากลุ่มซิลิโคนเดิม ทำให้ต้องเลือก supplier ที่เชี่ยวชาญ

เปรียบเทียบเนื้อสัมผัสและการใช้งานทั้ง 4 กลุ่ม

ตารางเปรียบเทียบ

การเลือกใช้ตามสภาพผิว

• ผิวมัน: เน้น Humectants + Synthetic Esters ที่ให้ฟีลแห้งไว ลดความเหนอะ
• ผิวแห้ง: ใช้ Natural Oils + Humectants + บางส่วนของ Esters เพื่อเคลือบและดึงน้ำพร้อมกัน
• ผิวผสม: ใช้ Humectants + Synthetic Esters หรือ Silicone Alternatives เพื่อบาลานซ์ความมัน–แห้ง
• ผิวแพ้ง่าย: เลือก Natural Oils ที่อ่อนโยน + Silicone Alternatives / Esters ที่ออกแบบมาสำหรับ sensitive skin

วิธีอ่านฉลากและเลือกครีมที่เหมาะกับคุณ\

การจะรู้ว่าครีมที่คุณใช้ “ให้ฟีลแบบไหน” ให้เริ่มจากการดูส่วนผสม (Ingredients List)
บนฉลากผลิตภัณฑ์

เคล็ดลับการอ่านฉลากอย่างง่าย

1. ดูส่วนผสม 5–7 อันดับแรก –
   คือโครงสร้างหลักของสูตร: น้ำ, Humectants, Oils/Esters, Emulsifier ฯลฯ
2. มองหา Humectants – เช่น Glycerin, Propanediol, Butylene Glycol,
   Sodium PCA, Hyaluronic Acid
3. ระบุน้ำมันธรรมชาติ (Natural Oils) –
   ชื่อมักลงท้ายด้วยคำว่า “Oil” เช่น Jojoba Oil, Argan Oil, Rosehip Oil
4. เช็ค Synthetic Esters –
   มักเป็นชื่อยาว ๆ เช่น C12-15 Alkyl Benzoate, Caprylic/Capric Triglyceride, Isopropyl Myristate
5. หา Silicone หรือ Silicone Alternatives –
   ซิลิโคนมักลงท้ายด้วย -cone, -siloxane ส่วน Alternatives อาจเป็น Squalane, Hemisqualane
   หรือมีการเคลมจากแบรนด์ว่า “Silicone-free”

สรุป – ส่วนผสมไหน “ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับผิวและประสบการณ์ที่อยากให้ลูกค้ารู้สึก

ไม่มีส่วนผสมตัวไหนที่ “ดีที่สุดสำหรับทุกคน” แต่มี
ส่วนผสมที่เหมาะที่สุดสำหรับสภาพผิวและคอนเซ็ปต์ผลิตภัณฑ์

สรุปภาพรวมแบบเข้าใจง่าย:

• ถ้าต้องการฟีลลิ่งเบา ฉ่ำน้ำ ซึมไว ไม่เหนอะ:
  → เน้นใช้กลุ่ม Humectants ร่วมกับ Synthetic Esters / Silicone Alternatives
• ถ้าต้องการบำรุงแน่น ฟื้น Barrier สำหรับผิวแห้งหรือผิวเสียหาย:
  → เสริม Natural Oils + Humectants + Emollients ที่เคลือบผิวดี
• ถ้าต้องการฟีลลิ่งพรีเมียม แต่ยังอยากอยู่ในเทรนด์ Clean Beauty / Silicone-free:
  → เลือกใช้ Silicone Alternatives ร่วมกับ
  Natural Oils / Synthetic Esters ที่เป็นมิตรต่อผิว

สำหรับเจ้าของแบรนด์ / R&D / โรงงาน OEM การเลือกบาลานซ์ 4 กลุ่มสารนี้
ไม่ได้แค่กำหนด “ประสิทธิภาพ” แต่คือการออกแบบ
“ประสบการณ์บนผิว” ที่ทำให้ลูกค้าจำแบรนด์คุณได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา

การเลือกส่วนผสมกับทีม P.C. Intertrade

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วกำลังคิดว่า
“งั้นในสูตรของฉัน ควรใช้ Humectants / Oils / Esters / Silicone Alternatives ตัวไหนดี?”

ทีม R&D ของ P.C. Intertrade สามารถช่วยคุณ
แมตช์คอนเซ็ปต์สินค้า ↔ วัตถุดิบที่มีอยู่จริง
บนเว็บของบริษัทได้ เช่น:

ตัวอย่างวัตถุดิบกลุ่ม Humectants / เพิ่มความชุ่มชื้น

• 1,3 Butylene Glycol – Humectant ให้ความชุ่มชื้นพร้อมเป็นตัวทำละลาย ใช้ได้ทั้งในสกินแคร์และเมกอัพ
• PhytoSpherix® (Glycogen) – Humectant จากธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น พร้อมเป็น Film Former และช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนในผิว
• ระบบ Humectant-Based Preservative – บางสูตรใช้กลุ่ม Glycol และ Humectant ให้ทั้งความชุ่มชื้นและการยับยั้งเชื้อในตัวเดียว เหมาะกับสูตรที่ต้องการภาพลักษณ์อ่อนโยน ปราศจาก Paraben/Phenoxyethanol

ตัวอย่างวัตถุดิบกลุ่ม Natural Oils / Emollients จากธรรมชาติ

• Argan Oil-Refined, Camellia Oil-Refined, Liquid Shea Refined, Macadamia Oil-Refined – น้ำมันพืชบริสุทธิ์ที่เหมาะกับสูตรบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นและภาพลักษณ์ Natural & Premium
• SABOWAX CP MB (Cetyl Palmitate) – Emollient จากธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งครีม โลชั่น ลิปสติก ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเนียน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• SABODERM DOE MB (Dicaprylyl Ether) – Natural Emollient ที่ให้ฟีลลิ่งบางเบา ซึมไว เหมาะทั้งสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง

ตัวอย่างวัตถุดิบกลุ่ม Synthetic Esters / Ester Emollients

• Natura-Tec Ultrafeel™ ININ (Isononyl Isononanoate) – Ester เนื้อบางเบา ปราศจากสีและกลิ่น เหมาะกับสูตรที่ต้องการสัมผัสสะอาด ละมุน ไม่มีกลิ่นรบกวน
• Natura-Tec Ultrafeel™ OP (Ethylhexyl Palmitate) – Ester Emollient ที่ช่วยให้เนื้อสัมผัสเรียบลื่น ในกลุ่มสกินแคร์และเมกอัพ
• SABODERM DBA (Dibutyl Adipate) – Ester Emollient เนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ กระจายตัวดี ให้ความชุ่มชื้น เหมาะกับครีมกลางวัน อิมัลชันเหลว และกันแดด ช่วย Boost skin feel และเข้ากันได้ดีกับ Organic UV Filters
• SABODERM AB (C12-15 Alkyl Benzoate) / SABODERM CVC MB (Coco-caprylate/caprate) / SABODERM CC MB (PEG-6 Caprylic/Capric Glyceride) – Emollient ที่ใช้ได้ทั้งเป็น Emulsifying Agent, Re-Fatting Agent และ Solubilizer ในสูตร Personal Care ที่ต้องการฟีลลิ่งชุ่มชื้นและคงความใสของผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างวัตถุดิบกลุ่ม Silicone Alternatives

• กลุ่ม Natura-Tec Plantsil™ (เช่น Plantsil™ Xcite, Plantsil™ XLite) –
  จัดเป็น Natural Emollients / Silicone Alternatives ให้สัมผัสลื่น เบา คล้ายซิลิโคน
  เหมาะกับครีมบำรุง ผิวหน้า เมกอัพเบส และกันแดดสมัยใหม่

อยากออกแบบเนื้อสัมผัสใหม่ ให้ทีมเราช่วยคิดไปพร้อมกับคุณ

ทีมเทคนิคของ P.C. Intertrade สามารถช่วยคุณ:

• แนะนำการเลือก Humectants / Emollients / Esters / Silicone Alternatives ให้เหมาะกับคอนเซ็ปต์สินค้า
• ช่วยออกแบบเนื้อสัมผัสให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย (ผิวมัน, ผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย, กลุ่ม Anti-Aging, กลุ่ม Clean Beauty ฯลฯ)
• แนะนำวัตถุดิบจาก supplier ระดับโลก พร้อมเอกสาร TDS, MSDS, Claim, ISO 16128 ฯลฯ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ถ้าต้องการพัฒนาสูตรครีมเนื้อบางเบา แต่ยังให้ความชุ่มชื้นดี ควรเริ่มจากส่วนผสมกลุ่มไหน?

A: แนะนำให้เริ่มจากกลุ่ม Humectants
(เช่น 1,3 Butylene Glycol, PhytoSpherix®) แล้วเสริมด้วย
Synthetic Esters หรือ Silicone Alternatives
เพื่อให้ฟีลลิ่งลื่น ซึมไว จากนั้นลองปรึกษาทีม P.C. Intertrade
เพื่อเลือก Ester/Emollient ที่เหมาะกับคอนเซ็ปต์สินค้าของคุณมากที่สุด

Q: ถ้าอยากทำสูตร Clean Beauty / Silicone-free แต่ยังอยากได้ฟีลเนียนลื่นแบบไพรเมอร์เมกอัพ ต้องใช้สารอะไรแทนซิลิโคน?

A: สามารถใช้กลุ่ม Natura-Tec Plantsil™
และ Silicone Alternatives อื่น ๆ ที่มีอยู่ในพอร์ตของ P.C. Intertrade
ซึ่งให้ฟีลลิ่งใกล้เคียงซิลิโคน แต่ตอบโจทย์ภาพลักษณ์สายธรรมชาติและย่อยสลายง่ายขึ้น

Q: ถ้าผิวลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผิวแห้งมาก ต้องการเนื้อเข้มข้น ฟีลฟู ๆ ควรเน้นกลุ่มใด?

A: สามารถผสมผสาน Natural Oils
(เช่น Argan, Shea, Macadamia) กับ Humectants
และ Natural Emollients เช่น SABOWAX CP MB หรือ SABODERM DOE MB
เพื่อให้ทั้งการเคลือบผิวและการดึงน้ำมาช่วยเติมเต็มผิวแห้ง